
วันนี้ออกสายนิดหน่อย
เนื่องจากเมื่อวานตอนขากลับที่พักนั้น นั่งรถบัสเลยป้ายสถานีเกียวโต
แล้วก็กดลงตรงป้ายไหนสักที่ ตรงไหนสักที่
ที่ไม่มีสถานีรถไฟ และตอนนั้นก็ดึกมากรถบัสเที่ยวที่นั่งมาน่าจะเที่ยวสุดท้าย...คนซวยนี่มันซวยจริงๆ เดินไปสักพักเจอป้อมยามของบริษัทอะไรสักอย่าง
เลยเดินเข้าไปถาม เปิดกูเกิลแมพให้เค้าดูว่าเราอยากไปตรงไหน แต่เหมือนเขาก็งงๆ
ทางเขารัวญี่ปุ่น ทางเราไทยคำอังกฤษคำ จะรู้เรื่องกันไหมเนี้ย
แต่ลุงยามพยายามช่วยเรามาก มากจนพวกเราเกรงใจเลยยุติการถาม
แล้วตัดสินใจเปิดแมพหาเส้นทางกลับที่พักด้วยการเดิน เดินไปตามตรอกมืดๆ
อิเพื่อนก็โยนกล้องตัวแพงทรัพย์สินมีค่ามาให้เราถือ
(กูจะโดนฆ่าชิงทรัพย์ไหมว่ะเนี้ย) ที่เกียวโตพอดึกแล้วเงียบมากๆ
เดินไปมโนเรื่องร้ายๆ ไปเรื่อย จนเพื่อนคนนึงร้องเพลงปลุกขวัญกำลังใจขึ้นมาเบาๆ “พอจะกินอะไรก็อยากแต่ข้าวหน้าเนื้อ~ ถามว่าเพราะอะไรก็เพราะเนื้อนุ่มๆ
คิดจะลองซักทีก็ต้องข้าวหน้าเนื้อ ฮ๊า ฮ่า ฮา ฮา ต๊อง ต๊อง~” เพลงจากการ์ตูนคินิคุแมนจอมพลังนั้นเอง
ใครอยากรู้ร้องยังไงไปหามาฟังเลย เพราะตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นเพื่อนมันร้องจนติดหูมาก
5555 เวลาผ่านไปสักพัก
คณะคนบ้าก็กลับมาถึงที่พักอย่างปลอดภัย แต่ปวดร้าวตามง่ามขาเป็นอย่างมาก
และนั้นก็คือที่มาของการออกสาย ทำให้พอลงมาจะกินข้าวเช้าฟรี
เกือบทุกอย่างมันจะหมดแล้ววว เสียจายย
แต่ถึงเหลือติดก้นหม้อเราก็ขูดกินกัน เพราะมันอร่อยมาก โดยเฉพาะแกงกะหรี่
แทบจะเอาหม้อมาเลียเอาข้าวลงไปคลุกน้ำ ถ้าพนักงานไม่เอาหม้อไปเก็บซะก่อน (รีบตักจนไม่ได้ถ่ายรูปเลย)
จากนั้นก็ไปขึ้นรถบัสที่เดิม
หลังสถานีเกียวโต ไม่รู้ต้องไปรอป้ายไหน ง่ายสุดคือถามพนักงานแถวนั้น พอขึ้นรถก็ให้ดูว่าถึงป้ายคินคะคุจิ ค่อยลง
จากป้ายเดินย้อนลงมาหน่อยนึงจะเจอซอยให้เดินๆ
ตามผู้คนไปเราก็จะเจอกับทางเข้าวัดทอง เรามาถึงที่นี่ประมาณ 10 โมงกว่าๆ
มาถึงคนก็เยอะแล้วอ่า
แต่แค่ได้เห็นบรรยากาศก็...ให้ภาพบรรยายแทนละกันเนอะ
 |
แวะกินไอติมสักหน่อย |
 |
อร่อย!!! มีที่ตักให้ด้วย |
 |
มุ่งหน้าเดินต่อไปที่วัดทอง |
 |
วันนี้แดดดีมาก |
 |
ขนาดยังไม่ได้เข้าไปข้างใน บรรยากาศก็ดีแล้ว |
 |
ถึงทางเข้าวัดทองแล้ว |
 |
เข้าไปซื้อตั๋วกันก่อนน้า |
 |
ได้มาแล้ว 4 ใบ เหมือนยันต์กันผีเลย 5555 |
 |
ในที่สุดก็ได้ยลโฉม สวยงามอร่ามตา |
 |
มวลมหาชนช่างเยอะอะไรเยี่ยงนี้ กว่าจะได้รูปทีมันช่างยายเย็นเหลือเกิน |
 |
ระหว่างทาง มีร้านขายพวกเครื่องราง โดนมา 1 อัน น่ารักมากๆ |
 |
เดินมาชมวิวมุมด้านบนกันบ้าง |
ก่อนออกจากวัดทองได้ตู้เซียมซีหยอดเหรียญ เกือบจะหยอดผิดตู้ มันจะมี 2 ตู้
ตู้สีเหลืองคือภาษาญี่ปุ่นล้วน
ส่วนตู้สีแดงคือภาษาอังกฤษ
ดีนะเห็นฝรั่งไปหยอดตู้นั้นก่อน
หยอดไป 100 เยน ก็จะมีใบเล็กๆ หล่นมาให้ พออ่าน เอ๊ะ!! ทำไมมันดีจังว่ะ เริ่มระแวง หรือมันจะมีแต่เบอร์นี้ทั้งตู้
เพื่อนมันเลยวิ่งไปถามฝรั่งคนก่อนหน้าว่าได้อะไร(มั่นใจมากภาษาอังกฤษก็พูดไม่ได้)
สรุปได้คนละเบอร์ รอดไป ไม่โดนหลอก 5555 และพวกเราก็จะไปต่อกันที่อาราชิยาม่า
 |
ขอพรสักหน่อย ชีวิตการเดินทางจะได้ราบรื่น |
 |
เจ้าตู้เหลืองนี่จะได้เซียมซีเป็นภาษาญี่ปุ่น |
 |
ต่างชาติอย่างเราต้องมาหยอดตู้แดงนี่ จะได้เป็นภาษาอังกฤษ |
 |
ได้คำทำนายโชคดีมากๆ เย้ๆ |
 |
ก่อนออกแวะหยอดเจ้านี่มา อร่อยมากอ่า มันคือซุปข้าวโพดร้อนๆ กินตอนหนาวๆ ฟินนนน |
จากการเดินทางอันเชื่องช้าของเราทำให้กว่าจะถึงที่อาราชิยาม่าก็ปาไปบ่าย 2 ละ หลังจากกินข้าวเติมพลังหอยทากกันแล้ว
เราก็ไปที่วัดเท็นริวจิ
ที่นี่จะมี 2 ราคา คือ ชนชั้นไม่ติดดิน(ได้เดินในอาคาร)
กับชนชั้นติดดิน(เดินเลาะตามสวนรอบๆ อาคาร)
ระดับเรามันก็ต้องเลือกแบบ...ถูกสุดแน่นอนอยู่แล้ว!!! เอ้าไปชมกันโล้ดดดดดด
 |
มาถึงอาราชิยาม่าแล้ว |
 |
เล็งหาร้านกินข้าว หิวมากกกก |
 |
ข้าวมาแล้วววว ซัดโฮกกกกกก |
 |
ที่นี่รถลากเยอะมาก |
 |
ร้านขายของข้างทางมีเยอะมากๆ |
 |
ทางเข้าวัดเท็นริวจิ |
และอย่างที่รู้ๆ
กันอยู่ว่าที่นี่มืดเร็วมากๆ พอวนออกมาที่ป่าไผ่ ก็เกือบจะกลายเป็นป่าช้ามืดตื๊ดตื๋อ
เราเลยรีบเดินเพื่อจะไปต่อกันที่สะพานรักสารสิน...ถุย... สะพานโทเก็ตสึเคียวตะหาก แต่ช่วงขามันเชื่องช้า
และไหนจะเจอร้านขายของฝาก(ที่แม่ฝากซื้อ)ดักเล่นงานตามไหล่ทางอีก...ทำให้พอไปถึงก็...มองไม่เห็นอะไรแล้ว
T^T
เดินทางกลับที่พักด้วยความช้ำใจ
 |
ตอนนี้ยังไม่มืด แต่กว่าจะหลุดออกมาจากนี่ได้ แสงสว่างก็ได้จากเราไปซะแล้ว |
 |
แวะซื้อของกินตามไหล่ทางเรื่อยเปื่อย แต่อร่อยอ่ะ หวานไปนี๊ดดด |
 |
อร่อยยันโคน |
----------------- จบการเดินทางในวันที่ 5 -----------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น