วันออกเดินทาง ไฟล์ทที่จองไว้คือ 09:45
ทำให้ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด สบายหน่อยตรงที่ได้จองแท็กซี่ให้มารับที่บ้านไว้แล้ว
และพี่แท็กซี่ที่จองไว้คือดีมากๆๆ เคยใช้พี่เค้าตอนขาไปฮ่องกงรอบนึง
ครั้งนี้ใช้ทั้งไป และกลับ พี่คนขับดีมากๆ ขับไม่ช้า ไม่เร็ว ไม่มีชวนคุยนอกเรื่อง
ช่วยขน และเข็นกระเป๋า แบบไม่ต้องร้องขอ (ใครอยากได้เบอร์พี่เค้าหลังไมค์มาได้นะ
บ้านพี่เค้าอยู่แถวๆ พุทธมณฑลสาย 4)
พอมาถึงสนามบิน
ก็ไปทำการแลกเงินเพิ่มก่อน มาถึงเร็วไปหน่อยเลยยังเช็คอินไม่ได้ พอลงไปที่ชั้นล่าง
เห็นเคาเตอร์แลกเงินอยู่รำไรๆ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ๆ เริ่มเห็นกระดาษอะไรแปะอยู่
เดินเข้าไปเรื่อยๆ จนอ่านได้ใจความว่า “เงินเยนหมดค่ะ”
ฟ๊าคคคคคค!!!
แต่สวรรค์คงยังเห็นความดีที่เคยช่วยมดที่กำลังจมน้ำ มันยังมีอีกร้านที่ยังไม่เปิด
และไม่ได้แปะกระดาษใดๆ ไว้หน้ากระจกร้าน เราก็รอจนมันเปิดและได้เงินเยนมาแต่ไม่มาก
เพราะมีไม่พอ (อะไรมันจะฮอตขนาดน้านนน)
จากนั้นก็ไปเช็คอิน
ตรวจกระเป๋า ผ่าน ตม.
ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แถวแต่ละที่สั้นมาก เวลาเหลือเยอะมาก เลยไปนั่งเน่าอยู่ในเลาจน์ คิงพาวเวอร์ กินกะเอาอิ่ม แล้วก็นอนหลับกันอย่างสุขสบาย พอถึงเวลาก็เดินไปขึ้นเครื่องสวยๆ (หรอ?) พอขึ้นเครื่องก็เจอกับแอร์ฯ
หน้าตาจิ้มลิ้ม งานดี งานอินเตอร์ ให้ความช่วยเหลือเรื่องที่นั่ง
มีแจกผ้าร้อนให้เช็ดหน้าเช็ดตา พอเครื่องบินขึ้น (ขึ้นนิ่มมาก
ถ้าไม่มองไปนอกหน้าต่างยังคิดว่าจอดอยู่ที่สุวรรณภูมิ เว่อร์ไปอีก 555) สักพักก็มีอาหารมาเสิร์ฟ (กินอีกละ) หลังจากอิ่มก็เลยนอนย่อยเป็นงูหลามแดกหมา 555
 |
ขานี้สั่งซีฟู๊ดไว้ อาหารมาเร็วจนต่างชาติข้างเคียงแอบมองค้อน |
สักพักก็ถึงสนามบินชางกี เราต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่นี่ มีเวลาประมาณ 50 นาที ก่อนเครื่องออก ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ต้องรีบเท่าไหร่ ก็เดินชิวๆ ไปตามป้าย Transit กะแวะเข้าห้องน้ำก่อน ก็มีเสียงแลดูร้อนรนดังมาประมาณว่า ไฟล์ททูโอซาก้าๆ เอ๊ะ!! คุ้นๆ ของเรานี่หว่า วิ่งสิ รอไร ปรากฎว่าเป็น 4 คนสุดท้าย ที่บนเครื่องเค้ารออยู่ เกือบไปแล้ว ขึ้นมานั่งพักเหนื่อยสักพักก็ได้กินข้าว(อีกแล้ว) ด้วยความกระหายก็เลยสั่งน้ำแอปเปิ้ลรัวๆ ก็ฟรีอะนะ (เก็บกดตอนนั่งโลว์คอสต์
จะสั่งอะไรก็เป็นเงินไปหมด)
จากนั้นก็พักสายตา ยาวไปค่ะ (เกม หนัง ไม่ได้ดูเลย
ชอบแอบดูของคนข้างหน้าแทน โรคจิตอ่ะ 555)
 |
มีเมนูให้ดูก่อนเลือกอาหาร(ถ้าเราไม่ได้รีเควสอาหารไว้) อาหารมี 2 แบบ |
 |
อาหารชุดแบบญี่ปุ่น |
 |
อาหารชุดแบบอินเตอร์ |
 |
ถ้าสั่งอาหารซีฟู๊ดไว้จะได้อันนี้ |
 |
ตบท้ายด้วยไอติมเป็นของหวาน |
ประมาณ 3
ทุ่มครึ่งก็มาถึงสนามบินคันไซแล้ว ฮิ้ววว
ครั้งแรกที่ได้มาแดนซามูไร ตื่นเต้นๆ
เราต้องนั่งรถไฟไปเทอมินอลหลักก่อน ใช้เวลาไม่นานก็ถึงเดินตามๆ
กันไป เพื่อไปผ่าน ตม. ก็เตรียมเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อย กลัวนิดๆ เหมือนกันนะ แต่เตรียมเอกสารที่พัก
ตั๋วขากลับ แผนการเดินทาง ตั๋วอื่นๆ ใส่ซองแจกจ่ายให้ลูกทีมทุกคนหมด น่าจะโอเคอยู่
แล้วก็ผ่านมาแบบง่ายๆ แถวก็ไม่ยาวเท่าไหร่ ตอนผ่านศุลกากรก็ผ่านกันไปแบบหมู่คณะง่ายๆ
ไม่ถามไรเลย (ถามหน่อยก็ได้นะ อุตสาเตรียมตอบคำถามมาซะเยอะเลย 5555)
 |
รอรถไฟๆ |
พอออกมาด้านนอกก็เกิดอาการมึนงง
หาทางไปไม่ถูก 5555 คืนแรกนี้แพลนไว้ว่าจะนอนที่สนามบินก็เล็งๆ
KIX Airport Lounge ไว้ แต่ตอนนี้ต้องหาทางไปซื้อตั๋วชินคันเซน
กับรถไฟสายโรแมนติกก่อน ก็มองหาป้าย T2(Terminal2) เดินๆไปก็เจอละ JR Ticket Office รีบเข้าไปอย่างไว
 |
นี่คือแถวของตอนเช้าวันรุ่งขึ้น คิดถูกที่ซื้อไว้ก่อนตอนมาถึง |
ออกตัวก่อนเลยว่าในกรุ๊ปนี้นั้นพูด
และฟังญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง
ภาษาอังกฤษนี่ระดับง่อยมาก
รอดพ้นจากทริปนี้มาได้เพราะการเปิดรูปให้ดู สื่อสารกันเป็นภาษากาย ล้วนๆ รูปนี่ช่วยได้เยอะมาก อย่างตอนนี้ที่จะจองชินคันเซน
จากเกียวโตไปมิชิม่า ในวันที่ 20 พ.ย.
ก็เซฟรูปที่ทำเส้นทางผ่านเว็บ hyperdia ไว้
แล้วเปิดให้เจ้าหน้าที่จองให้
 |
ตั๋วชินคันเซน จากเกียวโตไปมิชิม่า |
คราวนี้ก็จอง Sagano Romantic Train(Arashiyama) แต่เจ้าหน้าที่บอกเต็มมมมม
โนววววว
เจ้าหน้าที่เหมือนรับรู้ได้ถึงอารมณ์สะเทือนใจขั้นสุดของเรา
ก็ขอโทษเราใหญ่เลย คือดีมากๆ คือไม่ใช่ความผิดเขาเลยจริงๆ จากนั้นก็ถอยบัตร ICOCA มาคนละใบ
แล้วเดินออกไปอย่างผู้แพ้ (ซาวด์เพลง ฮิเดโกะ Hideko ของคู่กรรม
นี่ลอยมาเลย) ส่วนบัตร Yokoso Osaka Ticket ต้องแลกที่เคาน์เตอร์ NANKAI จะอยู่ด้านซ้ายมือ
ติดกับเคาน์เตอร์ JR แต่ต้องมาแลกพรุ่งนี้ เที่ยวเช้าสุดคือ 06.50 เคาน์เตอร์จะเปิดตอนตี 5 ครึ่ง
 |
บัตร ICOCA ราคา 2,000 เยน ใช้ได้ทั้งรถไฟ JR, รถไฟใต้ดิน, รถบัส ทั่วญี่ปุ่น และใช้ซื้อของของใน 7-11, Family Mart หรือ Lawson ได้อีกด้วยด้วย สามารถเติมเงินที่ร้านพวกนี้ หรือเติมที่ตู้อัตโนมัติตามสถานีรถไฟฟ้าทุกที่ แต่ถ้าจะคืนบัตรต้องคืนในเขตที่ซื้อบัตรมาเท่านั้น |
พอเสร็จเรื่องตั๋ว ก็ไปเรื่องที่พักหลับนอน ก็เดินกลับไปที่
Terminal1 ไปที่ KIX Airport Lounge
จะอยู่ข้างแมคโดนัล
แต่พอเห็นราคาแล้วแบบ...กลับไปที่พักเบาะเขียวนอนฟรีดีกว่า 5555
 |
อยู่ข้างๆ แมคโดนัล |
 |
ทางเข้าใหญ่โต |
 |
แถวๆ นี้มีล็อคเกอร์ให้ฝากของเยอะเลย |
 |
มีหลากหลายขนาด |
แต่ก่อนกลับไปที่ Terminal2
ก็แวะหาอะไรกินแถวนี้ก่อน เห็นร้านข้าวหน้าเนื้อแว๊บๆ
เข้าไปจัดเซ็ตใหญ่สุดมากิน อร่อยอ่า หรือหิวก็ไม่รู้ แต่ร้านนี้โอเคนะ
ราคาไม่แรงด้วย
 |
เดินมาสั่งอาหารก่อน ก็จิ้มๆ ภาพไป ด้านขวาคือที่ให้ยกจานไปไว้หลังกินเสร็จ |
 |
สั่งอาหารเสร็จก็ได้ใบมานั่งรอเรียกไปรับอาหาร |
 |
มาแล้ววว เยอะมากกก |
พออิ่มท้องก็เดินกลับไปที่
Terminal2 โซน Aero Plaza คือเดินเลย ที่ขายตั๋ว JR
ขึ้นไปนั้นเอง เดินตรงไปเรื่อยๆ เลย เจ้าที่นอนเบาะเขียวนอนฟรีเราจะอยู่ตรงข้ามกับร้านเบอร์เกอร์คิง พอไปถึงปรากฏว่าทุกเบาะได้ถูกจับจองหมดแล้วววว (ซาวด์เพลงคู่กรรมลอยมาอีกครั้ง) ก็เลยเดินออกมานั่งเน่าหน้าร้าน Lawson กะว่าจะนอน(นั่งหลับ)นี่ละ
ก็เตรียมเปิดกระเป๋าไปล้างหน้าแปรงฟันกัน
พอกำลังจะนั่งหลับก็มีพี่คนไทย ที่คงทนเห็นสภาพที่น่าสมเพชของอิพวกนี้ไม่ไหว เดินมาบอกว่าอีกโซนด้านนึงมีเบาะเหลืออยู่นะ แต่ไฟมันจะเปิดสว่างหน่อย ก็รีบโกยกระเป๋าไปเลยกลัวเต็มอีก 5555 หลังจากนั้นก็หลับ ตื่นๆ กันไปจนเช้า
 |
สภาพของผู้แพ้จากห้องเบาะเขียว |
------------------------- จบวันแล้ว สำหรับวันแรก -------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น