Hoy-Tak Tour ~ WarePiko

เมื่อวานดูพยากรณ์อากาศไว้ว่าวันนี้ฝนจะตก แต่พอตื่นขึ้นมาฟ้ามันใสแบบไม่น่าจะตกอ่ะ เลยขี้เกียจแบกร่มไปด้วย แถมวันนี้ออกกันแต่เช้าเลย เพราะจะไปกันที่ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ กลัวไปสายแล้วคนจะเยอะ อดกินข้าวเช้าฟรีเลย เพราะออกเช้าเกินไป ระหว่างทางไปก็สังเกตเห็นคนญี่ปุ่นทุกคนพกร่มติดตัวไปด้วย(เริ่มใจไม่ดีไม่ได้เอาร่มมา) แต่ก็ยังมุ่งหน้าต่อไป ยังคงเชื่อมั่นในตัวเองไม่ตกหรอกเชื่อเราสิ เราอยู่เมืองไทยมาพยากรณ์(ไทย)ไม่เคยตรง 55555 เรานั่งรถไฟไปลงที่สถานี Inari เดินออกจากสถานีมาหน่อยก็ถึงแล้ว ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ เสาแดงยิ่งใหญ่อลังการณ์

เสาแดงแรง 3 เท่า

พอถ่ายรูปหน้าทางเข้าไปได้ไม่นาน สักพักฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะตกก็เทลงแบบค่อยๆ ไล่ระดับความแรง รีบหาที่หลบกันแทบไม่ทัน (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าควรเชื่อพยากรณ์อากาศ อย่าขี้เกียจพกร่ม) หลังจากเห็นสภาพความเฉอะแฉะ และจำนวนคน(ที่มีร่ม) เริ่มเยอะขึ้น เราเลยตัดสินใจกันไม่ขึ้นไปข้างบน(เหมือนจะตัดสินใจผิด แอบเสียดายจนทุกวันนี้) สุดท้ายพอฝนซาหน่อยๆ ก็วิ่งไปร้านสะดวกซื้อไปซื้อร่มมา 2 คัน ได้ใช้ไปไม่ถึง 5 นาที ฝนหยุดตก คือร่ะ?

ฝนเทลงมา เทลงมาๆ

ได้แต่หมุนกล้องถ่ายอยู่ใต้หลังคา

ยืนคุยกับเทพจิ้งจอกไปก่อน

คุยกับด้านซ้ายเสร็จ ก็มาต่อที่ด้านขวา

ฝนไม่หยุดสักที เลยตัดใจกลับละ

จากที่พลาดหวังจากเสาแดง เราก็นั่งรถไฟไปต่อกันที่ วัดโทฟุคุจิ จากสถานี Fushiminari ก็นั่งไปลงที่สถานี Tobakaido ออกจากสถานีก็เดินๆ ตามคนส่วนมากไป (ไม่กลัวตามไปผิดทางเลย?) กว่าจะไปถึงเส้นทางช่างยาวไกลยิ่งนัก แต่พอไปถึงเห็นวิวทะเลใบไม้แดงถึงกับลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียว ที่นี่คนเยอะมากๆ ขนาดว่าไปช่วงเช้า เดินไหลๆ ชมวิวไปเรื่อยๆ รับรองว่าวัดนี้สวยงามคุ้มค่าเดินแน่นวล

เห็นวิวนี้วิวแรกหายเหนื่อยเลย

ซื้อตั๋วเข้ากันก่อน

ขนาดใบไม้ที่หล่นบนพื้นยังสวย

มีทำทางเดินไว้เป็นสัดส่วน เพื่อให้ธรรมชาติยังสวยงาม

พรมใบไม้แดง สวยมาก

คนเยอะมากๆ

มองไปทางไหนก็มีแต่สีแดงๆ

ผู้คนหนาแน่นมากจริงๆ

สิ้นสุดทางเดินชมทะเลใบไม้แดงแล้ว

แวะซื้อกินระหว่างทางเดินไปรอรถบัส

ข้างในเป็นไส้ถั่วแดง กินร้อนๆ อร่อยมากๆ

ไอ้นี่ก็อร่อย แพ็คเกจก็สวยงาม

ดื่มด่ำกับธรรมชาติเสร็จแล้วเราก็มายืนรอรถบัสเดินทางไปต่อกันที่ วัดคิโยมิซึ แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไกล ก็ต้องหาอะไรใส่ท้องก่อน เลยเลือกร้านมั่วๆ เอาแถวนั้น ได้มาเป็นร้านอาหารสไตล์จีนหน่อยๆ อยู่ใต้ตึก Amenity Hotel รสชาติใช้ได้ เติมพลังเสร็จก็เดินทางขึ้นไปยัง วัดคิโยมิซึ กันเลย จากที่ว่าวัดโทฟุคุจิ คนเยอะแล้ว ก็ไม่สู้มวลมหาชนที่นี่ พระเจ้าคนเยอะมาก เรียกว่า เวลาเจอร้านค้าน่าสนใจฝั่งตรงข้ามกับที่เราเดินอยู่ จะเดินตัดแถวทีมีคิดหนัก 5555 ระยะทางเดินขึ้นไปไกลมากกกก แต่ตามข้างทางก็มีร้านค้าต่างๆ มาหลอกล่อเงินในเป๋าตังให้สั่นไหวได้ตลอดเวลา และวิวของที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าที่ไหนๆ สวยมากๆ ก็เดินกันไปตามทางเรื่อยๆ แวะชมวิวเป็นพักๆ พอเดินจนมาถึงที่ด้านล่างเค้าจะมีน้ำให้ดื่มด้วย ใครอยากดื่มก็ไปต่อคิว วิธีดื่มก็ดูต้นแบบด้านหน้าได้เลย

ถ่ายหน้าร้านอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่ร้านที่ไปกินสักหน่อย 555

อร่อย และดีงาม

หรือหิวก็ไม่รู้ แต่ซัดเกลี้ยง

มีคุณลุง คุณป้า ควงแขนกันเดินขึ้นมาด้วย น่ารักดีอ่า

ในส่วนของจำนวนคนน้านนน......

กว่าจะมาถึงนี่ได้ก็หอบเบาๆ

อย่าลืมซื้้อตั๋วก่อนเข้าน้า

วิวดีงาม

มุมบังคับถ่าย 5555

เนื่องจากในวันพรุ่งนี้เราจะต้องบอกลาเกียวโต แล้วไปต่อกันที่คาวากูชิโกะกัน ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้นชินคันเซ็น เลยรีบกลับที่พักเร็วหน่อย เข้าเซเว่นหาของใส่ท้อง และรีบพักผ่อนเก็บแรงไว้วันต่อไป เย้ๆ

ที่สถานีเกียวโตมีการจัดต้นคริสต์มาสกันแล้ว

ปล.สำหรับในวันเดินทางไปคาวากูชิโกะมีเรื่องตื่นเต้น มาเตือนคนที่จะเดินทางด้วยชินคันเซ็น ไปลงที่มิชิม่า และต่อรถบัสไปคาวากูชิโกะกันด้วยนะ

ฮายยยย!! ไม่ได้อัพไรเลยมาหลายเพลามาก มีใครระลึกถึงกันมั้ยย พอๆ เลิกเพ้อดีกว่า เมื่อไม่กี่วันประสบเคราะห์กรรมให้ต้องไปแถวนครชัยศรี(ไปหาเพื่อน) จะมีเพื่อนทั้งทีบ้านมันก็อยู่ไกลออกไปนอกชานเมือง และเมื่อไหร่ที่สหายมาพบหน้ากันก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าหาร้านอาหารมาเติมพลังชีวิต เคยมีคนว่าไว้ว่า(ใครว่ะ?) "ในเคราะห์ร้าย 5 ส่วน จะต้องมีเรื่องดี 5 ส่วน" เราได้ไปเจอร้านที่เหมาะสำหรับคนกินน้อย(เหลือน้อย) อย่างเราๆ ในละแวก ท่านา นครชัยศรี ชื่อว่าร้าน หอมฟุ้ง ชาบู ปิ้งย่าง

Cr. Facebook หอมฟุ้ง ชาบู ปิ้งย่าง นครชัยศรี

ตัวร้านจะค่อนข้างเห็นยากนิดนึง ให้สังเกตทางเข้าโลตัสท่านา พอเจอแล้วให้ขับชะลอรถความเร็วประมาณ 20 ชิดซ้ายไว้

ลายแทงของร้าน

ที่นี่จะเป็นบุฟเฟ่ต์ ราคา 299 ที่มีกุ้งงงงง หัวโตที่ชื่นชอบ สั่งได้ไม่อั้น!!! ลักษณะของการสั่งวัตถุดิบ จะมีตัวกระดาษเมนูให้เขียนลงไป แล้วก็ยื่นให้น้องพนักงาน ที่โต๊ะจะมีทั้งหม้อแบบ 2 น้ำซุป คือน้ำซุปต้มยำ กับ น้ำซุปญี่ปุ่น(รึเปล่า) ส่วนตัวชอบแบบญี่ปุ่น แต่ต้มยำเอาไว้ใส่พวกหอยแมลงภู่ตัวเบิ้ม ใส่หัวกุ้งที่ปาดมันแล้วลงไปเพิ่มความเข้มข้นของน้ำซุปก็อร่อยสะใจ ตัวน้ำจิ้มมี 2 แบบ เป็นซีฟู๊ด และสุกี้ ราคานี้จะรวมพวกเครื่องดื่มด้วย ก็จะมีโค้ก น้ำแดง ชาเขียวญี่ปุ่น(รสชาติแอบคล้ายฟูจิอยู่นะ) แต่น้ำต้องลุกไปใช้สองมือบริการตัวเองนะ เพราะงั้นเราเลยเล็งโต๊ะที่ติดกับที่กดน้ำไว้ สบาย 5555

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนกินอยู่ไม่กี่อย่าง(เน้นปริมาณ ไม่เน้นความหลากหลายทางชีวภาพ) แต่เมนูของที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก(ไม่ได้ถ่ายเมนูไว้ด้วยสิ) แต่ทีเด็ดที่เราชอบมากของร้านนี้คือ สันคอหมู อูววๆๆ(เสียงเอคโค่) คือไม่บาง และไม่หนาเกินไป จะกินก็ค่อยเอาไปจุ่มๆ แกว่งๆ ถ้าแช่ไว้มันจะไม่...ไม่อร่อย?...เหอะ...ไม่มีในหม้อ!!! หายไปตอนไหนไม่รู้ หาตัวคนร้ายก็ไม่ได้ ฮือๆๆ ส่วนใครอยากกินแบบห่อชีส ก็ไม่ต้องลำบากห่อเอง สั่งเอาในเมนูนั้นแหละ ร้านเค้าห่อมาให้ แต่ถ้าอยากได้ชีสเพียวๆ มาจุ่ม ก็สั่งมาตามชอบ ส่วนของหวาน (กินคาวไม่กินหวาน สันดานไพร่) ก็มีไอติมตู้ให้ตักทดสอบพลังแขนในตัวคุณ แต่ใครที่ไม่มีพละกำลังแฝงในร่างกาย อาจจะขอให้น้องพนักงานที่ว่างๆ อยู่ ช่วยมาตักให้ก็ได้นะ อ้อ!! ร้านนี้มีเฟรนฟรายด้วยนะ ต้องสั่ง แต่มันไม่มีในเมนู(หรือตูตาไม่ดีว่ะ) เอ้าหล่ะไปดูภาพกันดีกว่า