วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

Japan Days 10 : วันแห่งความสุขของโอตาคุ



           วันนี้มีความผิดแผนในช่วงเช้าเล็กน้อย ตอนแรกตั้งใจจะไปดูต้นแปะก๊วยที่จิงกูไกเอ็งแต่ด้วยความอ่อนล้าจากการตื่นเช้าและการเดินทางหลายๆวันทำให้เราตัดสินใจตัดมันออกจากแผนแล้วเลือกการนอนแทน แต่ยังไงๆวันนี้ก็มีความตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะเราจะได้ไปที่ๆ ใฝ่ฝันมานาน ได้แต่นั่งดูนั่งเสพข้อมูลตั้งแต่มันเปิดตัว  จนวันนี้เราจะได้ไปสัมผัสกันของจริงกันแล้ว 
จะถึงแล้วๆ รีบซอยเท้าๆ

          ที่แรกที่เราจะไปก็คือ Tokyo Onepiece Tower และที่นี่เราได้จองห้องอาหารของซันจิคุงที่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์เอาไว้ด้วย จองไว้รอบ 13.00-15.00 (ที่ห้องอาหารนี้จะมีแบบเป็นคอร์สกับแบบบุฟเฟต์) ตอนที่ไปถึงก็มีงงๆ กับทางในโตเกียวทาวเวอร์หน่อยๆ แต่ก็มีป้ายบอกทางตลอดเลยเดินมาเจอห้องอาหารในสภาพหิวโซ พอถึงก็ยื่นใบจองให้พนักงาน เค้าก็จะพาเราไปนั่งที่โต๊ะ โชคดีได้นั่งโต๊ะที่เหมือนเป็นห้องๆ ไม่รู้เค้ากันส่วนนี้ให้คนที่จองไว้รึเปล่า? ตอนแรกที่มาที่นี่มาเพราะใจรักล้วนๆ ไม่ได้ตั้งความหวังกับรสชาติของอาหารในนี้เลยจริงๆ แต่พอได้ตักมากินเท่านั้นแหละ หืมมม...อร่อยยยยมาก อร่อยทุกอย่างเลย โดยเฉพาะเนื้อย่างที่จะมีพนักงานคอยหั่นให้ คือดีงามมาก ของกินอย่างอื่นก็มีเยอะแยะไปหมดแถมมีแกงกะหรี่ด้วยรสเข้มมาก ส่วนค่าเสียหายอยู่ที่ 2000 เยน เป็นราคาที่จับต้องได้ๆ
มาถึงทางเข้าโซนร้านอาหารแล้ว
ยังมีมุมให้ถ่ายรูปเล่น
อันนี้เป็นร้านแบบคาเฟ่ แต่ของเราต้องเดินไปด้านซ้ายอีกหน่อย
มีคุณกุ๊กซันจิคอยต้อนรับ
เดินเข้ามาในโซนห้องอาหารบุฟเฟ่ต์แล้ว ได้นั่งโซนนี้แหละ
โซนนี้แลดูเป็นส่วนตัวหน่อยๆ
ได้เวลาลุย หยิบอาวุธแล้วเดินไปเลือกของกินกันเลย
จานเป็นช่องๆ คือดีอ่ะ ใส่ได้หลายอย่าง


ของเด็ดเลยอันนี้
หมวกฟางก็มา งานขายดีหยิบกันทุกคน
ไข่กวนรึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ
กินเพลินเลย
ขนมจีบก็มา

อันนี้ก็ดีมาก

กินกับแกงกะหรี่คือดีมากอ่า
ทาโกะร้อนๆ
งานผักรักสุขภาพก็มี
มาที่โซนเครื่องดื่มบ้าง
ตู้กดน้ำ มีให้เลือกหลากหลายเลย
มุมของหวาน
กินคาวแล้วก็ต้องกินหวานต่อ

จานที่ 1 
และต่อด้วยจานที่ 2
ที่นั่งภายในร้าน
มีคุณกุ๊กคอยดูแลนะโต๊ะนี้



           หลังจากท้องอิ่มแล้วเราก็ไปลุยในโลกของโจรสลัดกัน ก่อนเข้าก็มีการฝากของในล็อคเกอร์ก่อน พอได้เข้าไปข้างในแล้วสำหรับแฟนๆ OnePiece มันคือความดีงาม ความประณีต ความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด เข้าไปตอนแรกก็จะมีการกักตัวเพื่อบิ้วด้วยการฉายภาพแสงสีก่อน แล้วค่อยปล่อยตัวให้เดินเล่นตามอัธยาศัย มีหลากหลายโซน เช่นโซนเครื่องเล่น โซนการแสดง โซนให้ถ่ายรูปเก๋ๆ เอาเป็นว่าอยู่ในนี้จนลืมเวลาไปเลย แต่สิ่งที่อยากจะร้องไห้คือลืมไปว่าวันที่ไปที่นี่มีจัดอีเว้นท์เป็นโดมหิมะขนาดยักษ์ที่มีช็อปเปอร์อยู่ด้านใน เสียใจมาก เพราะตอนกลับออกทางด้านหลังของโตเกียวทาวเวอร์
แลกตั๋วก่อนเข้า


ซันนี่มารับแล้ว







มีโซนดูดตังเป็นระยะๆ
มีเซียมซีให้กดด้วย
Den Den Mushi ยักษ์
บุกห้องครัวของกุ๊กประจำเรือซันนี่
เจอปลาหน้าตาประหลาด ว่าแต่มันกินได้ด้วยหรอฟร่ะ!!!
รอชมการแสดง
ก่อนเข้ามีไอ้นี่แจกให้ ไว้ร่วมกิจกรรมระหว่างแสดง
เป็นการแสดงที่โคตรคูลลลลลล
มีคนนั่งรอถ่ายรูปด้วย สาวๆต่อแถวกันเยอะมาก 5555

คิดถึงเอส T^T
ดาบใครหายมารับด่วน!!
มาที่โซนเล่นเกมบ้าง
ใครยิงชนะ มีรางวัลให้ด้วยนะ
ไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่หรอก 5555

โตเกียวทาวเวอร์ยามค่ำคืน

           หลังจากบรรลุความฟินในที่แรกไปแล้ว เราก็ไปต่อกันในที่ที่สอง นั้นก็คือ Artnia Cafe คาเฟ่ของสาวก Final Fantasy และ Square Enix นั้นเอง นี่คือ 1 ในเป้าหมายหลักในการมาญี่ปุ่นครั้งนี้เลยทีเดียว จาก Tokyo Onepiece Tower เราขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Akabanebashi ไปลงสถานี Higashi-Shinjuku ออกทางออก A3 เดินไปที่ Shinjuku Eastside Square  Artnia Cafe จะอยู่ชั้น 1F แต่ตอนที่มาถึงที่นี่บรรยากาศรอบด้านก็มืดสนิทซะแล้ว พอเข้าด้านในบรรยากาศเงียบมาก มีลูกค้าอยู่ไม่กี่โต๊ะเอง แต่สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจคือ โซนดูดตังหรือโซนขายของนั้นเอง มีแต่ของน่าพากลับบ้านทั้งนั้นเลย แต่เราต้องระงับความอยากเสียเงินแล้วมาสั่งอาหารก่อน ซึ่งก็มีแต่ของน่ากินอีกแล้วแต่เงินที่มีจำกัดก็เลยสั่งมา 2 อย่าง กับเครื่องดื่มอีก 1 ภายในร้านจะไม่ใหญ่มาก ขอบรรยายด้วยภาพละกัน
มาถึงก็มืดซะละ
ปีนี้ฉลองครบรอบดราก้อนเควสพอดีเลย


บรรยากาศภายในร้าน
ช่วงกลางคืนจะมีขายพวกค็อกเทลต่างๆด้วย
โซนละลายทรัพย์
งานหมุนเสี่ยงดวงก็มา
มีให้ทดลองฟังก่อนเสียทรัพย์
ของกินมาแล้ววว สวยจนไม่กล้าลงมีดเลย
นั่งแทะ Buster Sword 
มาที่โซนของแพงกันบ้าง
ความอยากได้กับเงินในเป๋ามันสวนทางกัน


           พอได้เสพความเป็น Final Fantasy และ Square Enix จนพอใจก็ได้เวลากลับ พอเดินออกมาเจอลมหนาวปะทะหน้าแบบหนาวมากๆ จากที่ดูพยากรณ์ คือ วันพรุ่งนี้จะมีหิมะตก เฮ้ย!!! คือตอนแรกก็ไม่เชื่อไง เพราะช่วงที่เรามามันไม่ใช่ช่วงหิมะอ่ะ แต่พยากรณ์ที่นี่ไม่เคยโกหก เราได้พิสูจน์มาแล้ว มารอดูกันว่าหิมะจะตกไหม แก๊งเราจะรอดไหมกับวันที่เหลือ มารอดูกัน
ลองหนมของเหล่าหมวกฟาง
หน้าตาแลดูงดงามมาก
แต่รสชาติไม่โอเคอ่า หวานโคตรๆ
แต่ไอ้เจ้านี่ใช้ได้ เป็นหมากฝรั่ง



------------------- จบการเดินทางในวันที่ 9 --------------------