วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Japan ใบไม้แดง แรง 3 เท่า - ช่วงเตรียมตัว

14 – 28 พฤศจิกายน 2559


 ใกล้แล้วๆ ใกล้จะได้ไปญี่ปุ่นสักที  ขอเกริ่นก่อนว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อยากไปมากกกก  เพราะมันมีอะไรหลายๆ อย่างที่เราชอบที่นั่น 
           1. เกมส์ โดยเฉพาะค่าย SQUARE ENIX เล่นตั้งแต่เด็กๆ และเติบโตมากับมันเรื่อยๆ  
           2. การ์ตูน พูดง่ายๆ ละกันว่าเราเป็นโอตาคุ จบ!!! 55555
           3. ดารา นักร้อง ไอดอล ทัคกี้ เอย  คิมูทากุ เอย  โอกุริ ชุน เอย โอยเยอะแยะมากมาย
           4. ขนม และอาหารการกิน 
           5. วิว ทิวทัศน์ ที่สวยงาม ตระการตา โดยเฉพาะช่วงนี้ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ในทริปนี้ก็หวังว่าจะได้ฟินครบหมดทุกอย่าง แต่ให้เจอดารานี่คงยาก 5555  เอาหล่ะ!!! ก่อนจะไปเที่ยวก็ขอรีวิวช่วงเตรียมตัวกันหน่อย

ช่วงเตรียมตัว

            หลังจากวางแผนว่าจะไปญี่ปุ่นช่วง พ.ย. ก็เล็งเมือง โอซาก้า เกียวโต คาวากูจิโกะ โตเกียว ไว้  ได้คนร่วมชะตากรรมมา 3 คน  รวมทริปนี้เป็น 4 ชีวิต  จากนั้นก็เริ่มหาตั๋วโปร เล็งกันตั้งแต่ต้นปี  ส่องจากเพจต่างๆ ในเฟสบุ๊ค เช่น  Ar-pae.com, ติดโปร - PRO addict  และแล้วก็เจอ โปรของ Vietnam Airlines กับ Singapore Airlines   โปรของเวียดนามจะถูกกว่า แต่เราก็เลือกสิงคโปร์ เพราะได้ยินมาหลายเสียงว่าบริการบนเครื่องดีมาก  จองผ่าน เว็บ Expedia ได้ไฟล์ท ไปเช้า – กลับเช้า (พึ่งมารู้ทีหลังว่าวิธีนับวัน วีซ่าญี่ปุ่น คือวันที่ไปถึงให้นับเป็น 0 แล้วไล่ไป 15 วัน  เสียใจหายไปวันนึง)  ส่วนราคาอยู่ที่ 11,315 บาท ต่อคน  อ้ออีกเหตุผลที่เลือกสายนี้เพราะสามารถเลือกลงโอซาก้า แล้วกลับทางโตเกียวได้ด้วย จะได้ไม่ต้องนั่งรถไฟย้อนไป-มา  จองเสร็จก็เข้าไปเลือกที่นั่ง รีเควสอาหาร

            พอได้ตั๋วมาละ ก็เริ่มมองหาที่พัก โดยหาจากเว็บ booking.com  ด้วยช่วงที่ไปนั้นตรงกับช่วงใบไม้แดงคนไปเที่ยวกันเยอะมากขนาดว่าเริ่มๆ ดูตั้งแต่เดือนเมษา ที่พักที่เล็งๆ ไว้ยังเต็มไปแล้ว ต้องจองเร็วแค่ไหนถามใจดู  หลังจากกดจองบ้าง กดยกเลิกบ้าง อยู่หลายที่ ก็ได้ที่พัก สำหรับ 3 เมือง มาเรียบร้อย
  • โอซาก้า พักที่ HOSTEL ZOO (15-17 NOV 16)  ราคา 23,400 เยน / 2 คืน / 4 คน
  • เกียวโต พักที่ Piece Hostel Kyoto (17-20 NOV 16)  ราคา 45,000 เยน / 3 คืน / 4 คน
  • คาวากูจิโกะ พักที่ Plaza Inn Kawaguchiko (20-22 NOV 16) ราคา 35,000 เยน / 2 คืน / 4 คน

เหลือที่โตเกียว หาไปมาก็ยังไม่เจอที่ถูกใจ และเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า  ส่วนมากเวลาจองที่พักจะเน้นใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ เดินทางสะดวก ซึ่งราคาก็จะแพงหน่อย ถ้าไม่แพงก็ไกลจากตัวเมือง  แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเคยอ่านเจอในพันทิป ว่ามีที่พักของป้าลาวัลย์ แถวอิเคะบุคุโระ ราคาเป็นมิตรพักได้ 4 คน ราคาคืนละ 10,000 เยน / ห้อง จากนั้นก็หาทางติดต่อป้าวัลย์จากในพันทิป http://pantip.com/topic/30044135  แล้วก็ไลน์ไปหาป้า ป้าใจดีมาก ป้าพิมไทยได้ด้วย เลยจองห้องกับป้าไว้ แล้วก็ได้เบอร์จองห้องมา เป็นอันเสร็จเรื่องตั๋ว เรื่องที่พัก

จากนั้นก็เตรียมตัวหาข้อมูล วางแผนการเดินทาง สำหรับการเตรียมข้อมูล เว็บที่สำคัญมากๆ คือ
  • Google My Maps  เอาไว้ปักหมุดสถานที่เที่ยว ที่กิน ดูเส้นทางความใกล้ ไกล  สำคัญมาก และยังช่วยให้มองเห็นภาพสถานที่เที่ยวจริงด้วย Google Street View ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปมาแล้ว 


  • เว็บ Hyperdia (http://www.hyperdia.com/en) ใช้สำหรับดูเส้นทางรถไฟ ทำให้เราสามารถกะเวลาในการเที่ยวได้คร่าวๆ  แต่เราต้องรู้ชื่อสถานีรถไฟต้นทาง กับปลายทางที่เราจะไปด้วย ซึ่งก็ดูได้จาก Google Maps นั้นแหละ
กรอกต้นทาง / ปลายทาง  เลือกวันที่ และเวลาที่เราจะดูเส้นทาง
เว็บจะแสดงเส้นทางการเดินทางให้เรา ประมาณ 5-10 เส้นทางตามที่เราระบุ
หลักการใช้ก็คล้ายๆ กับเว็บ Hyperdia  


  • และขาดไม่ได้เลยกับ เว็บ Pantip.com ข้อมูลแต่ละกระทู้แน่นมาก

พอเครื่องมือพร้อมแล้ว ก็ทำตารางเที่ยวตามแบบฉบับของตัวเอง เอาที่เราเข้าใจได้ (บอกตรงตอนสอบเอ็นทรานซ์ ยังไม่เคยตั้งใจขนาดนี้  ถ้าขยันแบบนี้ชีวิตคงดีกว่านี้ 5555)


จากนั้นก็ดูจองตั๋วสถานที่ ตั๋วรถบัส ต่างๆ ที่สามารถจองจากเมืองไทยไปได้  ในทริปนี้เราไม่ได้ใช้ JR Pass แต่ใช้เป็น Pass ย่อย อื่นๆ แทน   พวกตั๋วเข้า USJ , Disney , จอง Pocket Wifi และ Yokoso Osaka Ticket ไปซื้อจากงานเที่ยวญี่ปุ่น   Yokoso Osaka Ticket  เราจะได้นั่งรถไฟขบวน Nankai Rapi:t Express หรือรถไฟหัวอัศวิน จาก Kansai Airport  ไปนัมบะ ด้วยเวลาอันรวดเร็ว และยังได้  One Day Pass ไว้เดินทางในโอซาก้า 1 วันเต็ม และตั๋ว Yokoso นี้ จะต้องซื้อจากเมืองไทยเท่านั้น!!! แล้วนำไปแลกเป็นตั๋วจริงที่ญี่ปุ่น ที่เคาน์เตอร์ของ NANKAI   

จองตั๋ว จากเกียวโตไปคาวากูจิโกะ  จากคาวากูจิโกะไปโตเกียว
        ตอนแรกวางแผนการเดินทางจากเกียวโตไปคาวากูจิโกะ ไว้ว่าจะนั่งชินคันเซนยาว  แต่ได้คำแนะนำจากในพันทิปว่าให้นั่งชินคันเซนไปลง Mishima แล้วนั่งรถบัสต่อไปคาวากูจิโกะ จะประหยัดกว่า  เรากะให้ไปถึงเร็วๆ หน่อย ซึ่งช่วงเวลาที่เล็งไว้ พอถึง สถานี Mishima จะมีเวลาเดินไปขึ้นรถบัสแค่ 15 นาที (แต่ส่องจากพันทิปหลายๆ กระทู้ เขาว่าไปขึ้นทัน)  และเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปซื้อตั๋ว เลยจองไปเลยดีกว่า  ในเว็บจะเปิดจองล่วงหน้า 2 เดือน ก่อนวันที่เดินทาง อันนี้จองแล้วตัดบัตรจ่ายเงินเลย สามารถปริ้น Voucher ไปขึ้นรถได้เลย 
https://japanbusonline.com/Detail/12200050001/4222062/4194301001/  <<< ทางไปจอง


1. เมื่อกด link เข้ามาแล้ว จะเจอหน้าให้เลือกวัน และเวลาที่ต้องการจะเดินทาง

2. พอกดเลือกวัน และเวลาเสร็จ หน้าจอจะเลื่อนมาที่หน้านี้

3. กรอกทุกอย่างเสร็จก็จะไปหน้าชำระเงิน

4. ต้องนำ code ที่ส่งมาทางอีเมล์มากรอก

5. กรอกรายระเอียดเพื่อชำระเงิน 
หลังจากชำระเงินเสร็จเรียบร้อย ทางเว็บจะส่ง E-ticket/Confirmation เข้าไปทางอีเมล์ของเรา

ส่วน รถบัสจากคาวากูจิโกะไปโตเกียว จองอย่างเดียว ยังไม่ได้จ่ายเงิน จะต้องปริ้นแล้วไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์จองตั๋ว ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน  จะเปิดจองล่วงหน้า 1 เดือน ก่อนวันที่เดินทาง
http://highway-buses.jp/fuji  <<< ทางไปจอง
 1. เลือกที่ที่ต้องการขึ้นรถ

 2. เลือกวันเดินทาง

3. เลือกเวลาเดินทาง

4. กรอกรายละเอียดต่างๆ

5. ตรวจสอบรายละเอียดการจอง

6. จองเสร็จเรียบร้อย กดปริ้นใบจอง แล้วนำไปชำระเงินก่อนเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน


รีวิวการจองตั๋ว Ghibli Museum
         ในทริปนี้มีสถานที่ ที่ต้องไปให้ได้อยู่นั้นก็คือ Ghibli Museum ซึ่งขึ้นชื่อว่าจองยากมาก เพราะเขาจำกัดคนเข้าชมในแต่ละรอบซึ่งน้อยมาก โดยวันนึงจะมี 4 รอบ คือ 10.00 น. , 12.00 น. , 14.00 น. และ 16.00 น. ไม่สามารถเข้าก่อนเวลาที่จองไว้ และห้ามเข้าหลัง 30 นาที จากที่จองไว้(มาช้าก็อดเข้าเน้อ ถึงจะมีตั๋วก็ตาม) ถ้าเข้าไปแล้วสามารถอยู่ได้จนถึงเวลาปิด  ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://l-tike.com/st1/ghibli-en/sitetop    ได้ล่วงหน้า 1 เดือน (ตอนแรกก็ว่าจะสั่งกับคนที่รับซื้อตั๋ว ซึ่งการันตีว่าจองให้ได้แน่นอน แต่มันแพงอ่ะ T^T)  โดยเว็บจะเปิดให้จองเดือนถัดไปทุกๆ วันที่ 10 ของเดือน (งงไหม 555) เช่น เราจะไปวันที่ 25 พ.ย. เว็บจะเปิดให้จองเดือน พ.ย. ในวันที่ 10 ต.ค. ตอน 10 โมง ของญี่ปุ่น (8 โมงเช้าในไทย)   ก่อนหน้าที่จะถึงวันจองจริงเราก็มีการซ้อมจอง(จริงจังแค่ไหนถามใจดู) โดยในวันที่ 10 ก.ย. ตอน 8 โมง เราก็ทำการกดเข้าไป (อันนี้ใช้วิชาเก่าตอนจองโปร 0 บาท จากค่ายหางแดง)  ปรากฏว่า รอบ 10.00 น. ที่เล็งไว้ ขึ้นสัญลักษณ์สามเหลี่ยม อย่างรวดเร็ว (*สามเหลี่ยมคือใกล้เต็ม) แต่ยังพอจองได้บ้าง  เราก็คิดว่าโอเคหล่ะ เราน่าจะได้ตั๋ว เราจะต้องได้ตั๋ว เราต้องได้ ต้องได้ ต้องด้ายยยย  5555  พอถึงวันจริงก็เอาละ เปิดคอมฯ เตรียมเข้าเว็บไว้ตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง  พอถึงเวลา คลิก ปั๊บ เว็บค้างปุ๊บ!!!  ลนลานเลยทีนี้  รีเฟรชด่วนๆ  พอเข้าไปใหม่ วันที่เล็งไว้ รอบ 10 โมง เต็มจ้า ผ่านไปไม่ถึง 2 นาที อะไรมันจะฮอตขนาดนั้นค่ะพี่บัวลอย  เอาหล่ะเราไม่โอดครวญนาน เราเปลี่ยนไปจองวันอื่นแทนในรอบ 10 โมง และเราก็ทำได้ เย้!!! ตัดบัตรซื้อตั๋วมาเรียบร้อย ค่าเสียหายคนละ 1000 เยน  หลังจากนั้นเราก็กดเข้าไปดูหน้าจองอีกรอบ ผลคือรอบ 10 โมง ของทุกวันเต็มเรียบร้อย
และนี่คือสภาพ หน้าจองตั๋วหลังจากนั้นไม่กี่วัน โหดร้ายมากกกกกก

เอาหล่ะ เราผ่านจุดที่ยากไปละ ที่เหลือเราก็จอง TOKYO ONE PIECE TOWER  และบุฟเฟ่ต์ภัตราคารซันจิ  ซึ่งจองผ่าน https://onepiecetower.tokyo/?lang=en  ตั๋วเข้า TOKYO ONE PIECE TOWER  ตัดบัตรเลย แต่ตัวบุฟเฟ่ต์ยังไม่ต้องจ่ายเงิน 


ส่วนกระเป๋าเดินทางในทริปนี้ เลือกใช้แบบ 28 นิ้ว แล้วยัดกระเป๋าพับ กับเป้เตรียมไปออกลูกตอนขากลับ  พวกเสื้อโค้ท สเวตเตอร์ เสื้อแขนยาว คอเต่า ฮีทเทค  ก็สอยเอาจากร้านมือสอง มีราคาตั้งแต่ 100 – 450 บาท  ทั้งแบรนด์บ้าง โนแบรนด์บ้าง  จัดมาจนกระเป๋าจะแหก(นี่ขนาดขาไป)  แล้วก็มีเตรียมยาต่างๆ ลืมไม่ได้เลยโดยเฉพาะยาคลายกล้ามเนื้อ  ยาหม่อง ตราอินทรชิตร์ สูตร 2 ใช้ดีมากกกก อะไรห... เอ้ยดี บุ๋มก็ว่าดี  จากนั้นก็โทรจองแท็กซี่แบบอินโนว่า จะได้จุ 4 ชีวิต และกระเป๋าอ้วนๆ อีก 4 ใบ พอ  แล้วก็รอให้ถึงวันเดินทาง  แล้วจะมารีวิวให้ฟังตั้งแต่ตอนไป จนถึงกลับมาเลย